Asahi Transnational

    
 
2025-08-28

[NDT] ข้อมูลผลิตภัณฑ์: VGSTUDIO MAX 2025.2

VGSTUDIO MAX 2025.2

นี่คือคุณสมบัติที่น่าสนใจบางส่วนของ VGSTUDIO MAX 2025.2 สำหรับการยกระดับการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Non-Destructive Testing)

  • การผสานการทำงานร่วมกับ Absolute Arm และ AS1 : การผสานการทำงานนี้ช่วยให้สามารถวัดชิ้นงานแบบสัมผัส (tactile measurement) สแกนพอยต์คลาวด์ (point cloud scanning) และสร้างพื้นผิวเมช (surface mesh) ขึ้นมาใหม่ได้ ทั้งหมดนี้อยู่ภายในออบเจกต์การสแกนเดียว (unified scan object) ออบเจกต์การสแกนนี้รองรับชุดฟังก์ชันทั้งหมดสำหรับงานด้านมาตรวิทยา (metrology) และวิศวกรรมย้อนรอย (reverse engineering) ทำให้สามารถนำกลยุทธ์การวัด การประเมินผล และการทำงานอัตโนมัติมาปรับใช้ได้อย่างสอดคล้องกัน เช่นเดียวกับการทำงานกับข้อมูล CT
  • ภาพรวมของ Feature และองค์ประกอบทางเรขาคณิตทั่วทั้งโครงการ : กล่องโต้ตอบภาพรวมการวัดพิกัด (coordinate measurement overview) แบบใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์การวัดและค่าความคลาดเคลื่อนทางเรขาคณิต (geometric tolerances) ตลอดการสแกนหลายรายการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการจัดการโครงการที่มีชิ้นส่วนหลายชิ้นและมีองค์ประกอบการวัดพิกัด (CM) จำนวนมาก
  • และอีกมากมาย….

 

มีอะไรใหม่ใน VGSTUDIO MAX 2025.2


 

[ใหม่] การผสานการทำงานร่วมกับ Absolute Arm และเครื่องสแกน AS1 ของ Hexagon

คุณสมบัติและฟังก์ชันหลัก

  • การผสานการวัดแบบสัมผัสและการสแกนด้วยแสง (Integration of Tactile Measurement and Optical Scanning)การวัดด้วยหัวโพรบสัมผัสจาก Absolute Arm (การวัดขนาดแบบสัมผัส) และการสแกนด้วยเลเซอร์ความเร็วสูงจากเครื่องสแกน AS1 (การเก็บข้อมูลพอยต์คลาวด์แบบไม่สัมผัส) สามารถประมวลผลได้ภายใน “ออบเจกต์การสแกน” เดียวกัน ทำให้ VGSTUDIO MAX ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับงานทดสอบโดยไม่ทำลาย (NDT) แต่ยังเหมาะสำหรับงานสแกน 3 มิติอีกด้วย
  • ออบเจกต์การสแกนแบบรวมศูนย์ (Unified Scan Object) การผสานการทำงานนี้ช่วยให้สามารถจัดการเทคนิคการเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน เช่น ข้อมูล CT, การวัดแบบสัมผัส, การสแกนด้วยเลเซอร์ และแม้กระทั่งข้อมูลความขรุขระของพื้นผิวจากการสแกนด้วย GelSight ให้เป็นออบเจกต์การสแกนแบบรวมศูนย์ได้
  • ฟังก์ชันด้านมาตรวิทยาและวิศวกรรมย้อนรอยแบบรวมศูนย์ ออบเจกต์การสแกน เช่นเดียวกับข้อมูล CT รองรับฟังก์ชันการวิเคราะห์ การประเมินผล และการทำงานอัตโนมัติที่หลากหลาย รวมถึงการวัดพิกัด การเปรียบเทียบค่าที่วัดได้จริงกับค่าความคลาดเคลื่อน และวิศวกรรมย้อนรอย
  • การประมวลผลวิธีการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันแบบขนานบนแพลตฟอร์มเดียว
    ข้อมูล CT: ตรวจจับข้อบกพร่องภายใน ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ที่สำคัญในการทดสอบโดยไม่ทำลาย (NDT)
    Absolute Arm: การวัดค่าความเบี่ยงเบนของตำแหน่งและความแม่นยำของมิติ
    AS1 scanner: การประเมินความแม่นยำของรูปทรงพื้นผิว
    GelSight scan: การวิเคราะห์ความขรุขระของพื้นผิว (ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ GelSight Mobile)
    → การวิเคราะห์ทั้งหมดสามารถทำได้ในลักษณะบูรณาการบน VGSTUDIO MAX โดยไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์หลายโปรแกรม
  • ลดความซับซ้อนของขั้นตอนการทำงานและเพิ่มความแม่นยำในการประมวลผล
    สร้างมาตรฐานขั้นตอนการทำงานบนซอฟต์แวร์ (ไม่จำเป็นต้องสลับไปมาระหว่างเครื่องมือหลายชนิด)
    รับประกันความสอดคล้องในการประเมินผลจากแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกัน
    เพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และลดต้นทุนการดำเนินงาน

ตัวอย่างการใช้งาน

  • การผลิต/การประกันคุณภาพ: สามารถประเมินชิ้นส่วนขนาดเล็กได้อย่างครอบคลุม ทั้งข้อบกพร่องภายใน (CT) ค่าเบี่ยงเบนของมิติ (Absolute Arm) และความผิดปกติบนพื้นผิว (AS1) และสามารถสร้างรายงานคุณภาพฉบับสุดท้ายได้ในโปรแกรมซอฟต์แวร์เดียว
  • วิศวกรรมย้อนรอย: สามารถสร้างแบบจำลอง CAD ที่สมบูรณ์ได้โดยการเก็บข้อมูลโครงสร้างภายในของชิ้นส่วนที่มีอยู่โดยใช้ข้อมูล CT สแกนผ่านกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย และเก็บข้อมูลรูปทรงภายนอกโดยใช้ AS1 ควบคู่ไปกับข้อมูลความขรุขระของพื้นผิวที่ได้จาก GelSight
  • การปรับใช้ในสายการผลิตอัตโนมัติ: ขั้นตอนการตรวจสอบที่รวมวิธีการสแกนหลายรูปแบบสามารถทำได้โดยอัตโนมัติโดยใช้มาโครและเทมเพลต ทำให้สามารถตรวจสอบชิ้นส่วนจำนวนมากซ้ำๆ ได้อย่างแม่นยำ

สรุป

ฟังก์ชัน “Absolute Arm + AS1 Integration” ที่เพิ่มเข้ามาใน VGSTUDIO MAX เวอร์ชั่น 2025.2 ได้รวมการสแกนแบบสัมผัส, เลเซอร์, CT ในการทดสอบโดยไม่ทำลาย (NDT) และการสแกนความขรุขระ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องจัดการแยกกัน เข้าไว้ในออบเจกต์การสแกนเดียว ทำให้เกิดขั้นตอนการประเมินผลโดยไม่ทำลายแบบบูรณาการ สิ่งนี้ช่วยให้งานวิเคราะห์มีความคล่องตัว สร้างมาตรฐานด้านความแม่นยำ และลดต้นทุนการดำเนินงานและความซับซ้อนในการจัดการซอฟต์แวร์

 

โมดูลเสริมของ VGSTUDIO MAX (Add-on Modules)

VGSTUDIO MAX ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกโมดูลเสริมที่หลากหลายสำหรับการวิเคราะห์วัสดุ, การวิเคราะห์เรขาคณิต, การจำลอง และการสร้างข้อมูล CT ใหม่ (CT reconstruction) ตามความต้องการในการวิเคราะห์

Geometry Analysis

โมดูลในหมวดนี้เน้นการวัด ตรวจสอบ และเปรียบเทียบที่มีความแม่นยำสูง เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับแบบที่ออกแบบไว้ ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพทุกขั้นตอนของการผลิตและลดการแก้ไขงานซ้ำ

  • Coordinate Measurement: ทำการวัดและประเมินค่ามิติรวมถึงการวัดเชิงเรขาคณิตและความคลาดเคลื่อน (GD&T) ได้โดยตรงจากข้อมูล CT โมดูลนี้มีเครื่องมือด้านมาตรวิทยาที่ครบถ้วนซึ่งทำงานบนข้อมูล voxel ดั้งเดิม จึงให้ผลการวัดที่มีความแม่นยำสูงโดยไม่จำเป็นต้องสร้างผิวหรือทำการ triangulation ทำให้เป็นโซลูชันที่ทรงพลังสำหรับการควบคุมคุณภาพ
  • Nominal/Actual Comparison: การเปรียบเทียบข้อมูล CAD กับข้อมูล CT ในเชิงสามมิติและแสดงความเบี่ยงเบนทางเรขาคณิตด้วยแผนภาพสีที่เข้าใจง่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตรวจสอบชิ้นงานแรก (First Article Inspection), การตรวจสอบเครื่องมือ (Tool Validation) และการระบุแนวโน้มการผลิต โมดูลนี้ช่วยให้การเปรียบเทียบเต็มพื้นที่ (Full-field Comparison) ทำได้อย่างครบถ้วน โดยสามารถแสดงให้เห็นการบิดงอ การหดตัว หรือความคลาดเคลื่อนเชิงเรขาคณิตอื่น ๆ ได้ทั่วทั้งชิ้นงาน
  • วิเคราะห์ความหนาของผนังชิ้นงานทั้งชิ้น แบบไม่ทำลาย เพื่อตรวจหาบริเวณที่เบี่ยงเบนจากการออกแบบ โดยใช้วิธีการวัดแบบทรงกลม (Sphere-based Method) ที่สามารถวัดความหนาได้อย่างแม่นยำแม้เป็นเรขาคณิตที่ซับซ้อน เช่น ชิ้นงานหล่อหรือชิ้นงานฉีดขึ้นรูป วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจในความแข็งแรงเชิงโครงสร้างและป้องกันจุดบกพร่องที่อาจเกิดจากผนังที่บางหรือหนาเกินไป
  • Manufacturing Geometry Correction: แก้ไขข้อมูลเครื่องมือ (Tooling), ข้อมูลแม่พิมพ์ (Mold Data) หรือโมเดลการพิมพ์สามมิติ โดยอิงจากผลการวิเคราะห์ความเบี่ยงเบนระหว่างชิ้นงานต้นแบบ (First-off Part) และข้อมูล CAD ที่เป็นแบบมาตรฐาน ระบบสามารถชดเชยผลกระทบที่คาดการณ์ได้ เช่น การบิดงอหรือการหดตัวโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถผลิตชิ้นงานที่มีความแม่นยำเชิงมิติได้รวดเร็วขึ้นและลดจำนวนรอบของการแก้ไขซ้ำ
  • CAD Import: รองรับการนำเข้าข้อมูล CAD ดั้งเดิมจากซอฟต์แวร์หลัก ๆ เช่น CATIA, Creo, NX และ SOLIDWORKS รวมถึงฟอร์แมตมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเรขาคณิตและโครงสร้างผลิตภัณฑ์ถูกถ่ายโอนมาอย่างสมบูรณ์โดยไม่เกิดข้อผิดพลาดจากการแปลงไฟล์ ทั้งยังช่วยให้การทำงานลื่นไหลขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาแปลงไฟล์ข้อมูลที่ยุ่งยาก
  • PMI Extension for CAD Import: อ่านข้อมูล Product and Manufacturing Information (PMI) ได้โดยตรงจากไฟล์ CAD เพื่อช่วยในการสร้างแผนการตรวจวัดแบบอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึง GD&T, คำอธิบาย (Annotation) และค่าความคลาดเคลื่อนที่ฝังอยู่ในโมเดล 3D ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถสร้างแผนการตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการป้อนข้อมูลด้วยมือ และทำให้มั่นใจได้ว่าการตรวจสอบสอดคล้องตามที่วิศวกรผู้ออกแบบกำหนด
  • Reverse Engineering: สร้างแบบจำลอง CAD ขึ้นมาใหม่จากข้อมูล CT โดยการดึงข้อมูลพื้นผิวที่มีความแม่นยำสูงซึ่งถูกกำหนดผ่าน VGSTUDIO MAX โมดูลนี้มีชุดเครื่องมือที่ครบครันสำหรับการสร้างพื้นผิว NURBS จากข้อมูลว็อกเซล (voxel) หรือข้อมูลเมช (mesh) ซึ่งสามารถส่งออกเป็นไฟล์ CAD ในรูปแบบมาตรฐาน เช่น STEP หรือ IGES ได้ คุณสมบัตินี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างแบบจำลอง CAD ของชิ้นส่วนรุ่นเก่า, ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง, หรือเพื่อการปรับแก้แบบตามชิ้นงานที่ผลิตจริง

Material Analysis

วิเคราะห์โครงสร้างภายในของวัสดุในระดับจุลภาคเพื่อทำความเข้าใจคุณสมบัติให้ชัดเจน สิ่งนี้จะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาวัสดุและการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น

  • Porosity/Inclusion Analysis: ตรวจจับและวิเคราะห์ข้อบกพร่องภายใน เช่น ความพรุน, โพรง, หรือสิ่งเจือปน และประเมินผลตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (เช่น BDG P 203) โมดูลนี้ให้ข้อมูลสถิติโดยละเอียดเกี่ยวกับขนาด, รูปร่าง, และตำแหน่งของข้อบกพร่อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินคุณภาพของชิ้นงานหล่อ และรับประกันความน่าเชื่อถือของชิ้นส่วนสำคัญด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรมยานยนต์และการบินและอวกาศ
  • Fiber Composite Material Analysis: วิเคราะห์การเรียงตัว, สัดส่วนปริมาตร, และคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ของเส้นใยในวัสดุคอมโพสิต เช่น พลาสติกเสริมเส้นใย (FRP) การทำความเข้าใจการเรียงตัวของเส้นใยในระดับเฉพาะที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการคาดการณ์พฤติกรรมเชิงกลและประสิทธิภาพของชิ้นส่วนคอมโพสิตได้อย่างแม่นยำ โมดูลนี้ให้ข้อมูลโดยละเอียดที่จำเป็นสำหรับการจำลองโครงสร้างขั้นสูง
  • Foam/Powder Analysis: ประเมินโครงสร้างเซลล์หรืออนุภาคของวัสดุ เช่น โฟมโลหะ, วัสดุที่มีรูพรุน, และผงที่ผ่านการซินเตอร์ ในเชิงปริมาณ โมดูลจะคำนวณสถิติเกี่ยวกับขนาดเซลล์, ความหนาของผนัง, และการเรียงตัวของโครงสร้างค้ำยัน (strut) ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจคุณสมบัติเชิงกล, ความร้อน, และเสียงของวัสดุที่ซับซ้อนเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้การออกแบบและการควบคุมกระบวนการดีขึ้น
  • Battery Analysis: วิเคราะห์โครงสร้างภายในอย่างละเอียดของเซลล์แบตเตอรี่เพื่อประเมินคุณภาพและความปลอดภัย โมดูลนี้มีเครื่องมือพิเศษสำหรับการวัดพารามิเตอร์ที่สำคัญ เช่น ระยะยื่นของแอโนด, ความโค้งของอิเล็กโทรด, และการกระจายตัวของอนุภาค โมดูลนี้ช่วยตรวจจับข้อบกพร่องในการผลิต เช่น การหลุดร่อนของชั้นวัสดุ หรือสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และป้องกันความล้มเหลว
  • Digital Volume Correlation เปรียบเทียบข้อมูล CT ของชิ้นส่วนก่อนและหลังการเสียรูป (เช่น จากการทดสอบภายใต้ภาระจริง) เพื่อแสดงภาพและวัดปริมาณของสนามความเครียดและการกระจัดภายใน เทคนิคอันทรงพลังนี้ให้มุมมอง 3 มิติเต็มรูปแบบเกี่ยวกับพฤติกรรมของวัสดุภายใต้ความเค้น ซึ่งเผยให้เห็นความเข้มข้นของความเครียดเฉพาะที่และกลไกการเสียรูปที่ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยวิธีการวัดภายนอก

Simulation

เพิ่มขีดความสามารถในการจำลองปรากฏการณ์ทางกายภาพและการแก้ไขข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาด้านการผลิต ซึ่งช่วยลดจำนวนรอบการสร้างต้นแบบและทำให้เวลาการพัฒนาสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ

  • Structural Mechanics Simulation: ทำการจำลองแรงเค้นและความเครียดโดยตรงบนข้อมูล voxel จากการสแกน CT วิธีการนี้ใช้เรขาคณิตที่ผลิตจริง รวมถึงข้อบกพร่องภายใน เช่น รูพรุน ทำให้ได้การคาดการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของชิ้นงานภายใต้การรับแรง นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องสร้างตาข่าย (mesh generation) และช่วยให้การตรวจสอบสมรรถนะมีความแม่นยำยิ่งกว่าการจำลองที่อิงจากโมเดล CAD ในอุดมคติ
  • Transport Phenomena Simulation: ทำการจำลองการไหล การแพร่ รวมถึงการนำความร้อนหรือการนำไฟฟ้าในชิ้นส่วนที่มีรูพรุนหรือประกอบด้วยหลายวัสดุ โดยการทำงานโดยตรงบนโครงสร้างจุลภาคที่สแกนมา โมดูลนี้สามารถคำนวณคุณสมบัติได้อย่างแม่นยำ เช่น ค่าการซึมผ่าน (permeability) ความคดเคี้ยว (tortuosity) และค่าการนำเชิงประสิทธิผล (effective conductivity) ซึ่งมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับการออกแบบไส้กรอง เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน หรือส่วนประกอบของเซลล์เชื้อเพลิง
  • Fixture Simulation: ทำการจำลองการเปลี่ยนรูปของชิ้นงานเมื่อถูกจับยึดด้วยฟิกซ์เจอร์ สิ่งนี้ช่วยให้สามารถจัดแนวเสมือนจริงของการสแกนในสภาพอิสระให้เข้ากับสภาพที่ถูกจับยึด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำของการเปรียบเทียบทางมาตรวิทยาระหว่างข้อมูลการสแกนและโมเดล CAD อีกทั้งยังช่วยแยกแยะได้อย่างชัดเจนระหว่างความคลาดเคลื่อนจากกระบวนการผลิตและการเปลี่ยนรูปที่เกิดจากการจัดวางเครื่องมือวัด
  • Volume Meshing: สร้างตาข่ายปริมาตรรูปสี่หน้า (tetrahedral volume meshes) คุณภาพสูงจากการสแกน CT เพื่อนำไปใช้ในซอฟต์แวร์ FEM ภายนอก อัลกอริทึมการสร้างตาข่ายขั้นสูงสามารถสร้างตาข่ายจากพื้นผิวที่ซับซ้อนและมีความแม่นยำในระดับต่ำกว่า voxel ของวัตถุที่สแกน รวมถึงโครงสร้างภายใน ฟังก์ชันนี้จึงทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างข้อมูล CT และกระบวนการจำลองของบุคคลที่สาม เช่น FEA หรือ CFD

CT Reconstruction

มอบโมดูลเฉพาะทางสำหรับการสร้างข้อมูลปริมาตร 3 มิติคุณภาพสูงจากภาพฉาย 2 มิติที่ได้จากเครื่องสแกน CT ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์ทั้งหมดที่ตามมา

  • CT Reconstruction:ทำการสร้างชุดข้อมูลปริมาตร 3 มิติคุณภาพสูงจากภาพฉาย 2 มิติที่สร้างขึ้นโดยเครื่องสแกน CT โมดูลนี้นำเสนออัลกอริทึมขั้นสูงสำหรับการลดสิ่งแปลกปลอม (artifact reduction) เช่น การแก้ไขการแข็งตัวของลำแสง (beam hardening correction) และการลบสิ่งแปลกปลอมรูปวงแหวน (ring artifact removal) ส่งผลให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและแม่นยำมากยิ่งขึ้นสำหรับการวิเคราะห์ในขั้นตอนถัดไป นอกจากนี้ยังมอบความยืดหยุ่นในการปรับแต่งพารามิเตอร์การสร้างใหม่เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุด

Artificial Intelligence

มอบโมดูลเฉพาะทางที่ใช้ประโยชน์จาก AI และ deep learning เพื่อทำให้กระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานานเป็นแบบอัตโนมัติ เช่น การแบ่งส่วน (segmentation) ของโครงสร้างที่ซับซ้อน

  • Deep Segmentation: ดำเนินการแบ่งส่วนของวัสดุและโครงสร้างที่ซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ AI (deep learning) ผู้ใช้สามารถฝึกเครือข่ายประสาท (neural network) บนบริเวณเล็ก ๆ ที่ถูกแบ่งส่วนด้วยมือเพื่อให้อัตโนมัติทั้งชุดข้อมูล วิธีการนี้ทรงพลังอย่างยิ่งสำหรับชิ้นส่วนที่ประกอบด้วยหลายวัสดุ คอมโพสิตเส้นใย (fiber composites) หรือวัสดุพรุน ซึ่งวิธีการ thresholding แบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้งานได้ผล
  • GelSight Integration: นำเข้าและวิเคราะห์ข้อมูลภูมิประเทศและลักษณะพื้นผิวความละเอียดสูงที่ได้จากเซนเซอร์ GelSight โมดูลนี้ช่วยให้สามารถผสานโครงสร้างภายใน 3 มิติจากการสแกน CT เข้ากับข้อมูลพื้นผิวที่มีรายละเอียดสูงได้ วิธีการแบบบูรณาการนี้ช่วยให้สามารถทำการวิเคราะห์ได้อย่างครอบคลุมทั้งคุณลักษณะของพื้นผิว เช่น ความขรุขระหรือข้อบกพร่องขนาดเล็ก และคุณลักษณะภายในในระบบพิกัดเดียวกัน

โมดูลเสริมของ VGSTUDIO MAX สามารถติดตั้งเป็นแพ็กเกจที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้า (Pre-configured Package) ร่วมกับรุ่นพื้นฐาน (Basic Edition) ตามสาขาการใช้งาน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ลูกค้าสามารถซื้อโมดูลเสริมเพิ่มเติมได้ทั้งแบบรายโมดูลหรือแบบชุด (Bundle) ในภายหลัง เมื่อมีสิทธิ์การใช้งาน VGSTUDIO MAX Basic Edition แล้ว

Add-on Modules VGSTUDIO MAX Package
Geometry Material Cast & Mold Composites & Plastic Additive Manufacturing Battery Universal Ultimate
Coordinate Measurement
Nominal/Actual Comparison
Wall Thickness Analysis
Porosity/Inclusion Analysis
Fiber Composite Material Analysis
Foam/Powder Analysis
Battery Analysis
Manufacturing Geometry Correction
Volume Meshing
Structural Mechanics Simulation
Transport Phenomena Simulation
Reverse Engineering
Digital Volume Correlation
CAD Import*
CAD Import with PMI**
CT Reconstruction
Deep Segmentation

*CAD Translation Technology จัดทำโดย Tech Soft 3D

 

การเปรียบเทียบคุณสมบัติตามซอฟต์แวร์แต่ละรุ่น

แม้แต่ VGSTUDIO MAX รุ่นพื้นฐานที่ไม่มีโมดูลเสริม ก็ยังแตกต่างอย่างชัดเจนจาก VGSTUDIO โดย VGSTUDIO MAX เป็นเวอร์ชันที่ครอบคลุมมากกว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่า และเป็นรุ่นขั้นสูงที่ขยายขีดความสามารถของ VGSTUDIO อย่างเต็มรูปแบบ

คุณสมบัติ VGSTUDIO VGSTUDIO MAX
การกำหนดพื้นผิว ไม่มี ตามค่า Isovalue, ขั้นสูง (คลาสสิก), ขั้นสูง (หลายวัสดุ) (พร้อมโมดูล Coordinate Measurement)
การแสดงภาพ การแสดงภาพ 3 มิติของชุดข้อมูล CT ขนาดใหญ่มาก โดยแทบไม่มีข้อจำกัดด้านปริมาณข้อมูล
การแบ่งส่วน ไม่มี แยกชุดข้อมูลออกเป็นส่วนๆ (Regions of Interest หรือ ROIs) ซึ่งอาจประกอบด้วยส่วนประกอบ, วัสดุ ฯลฯ ที่แตกต่างกัน โดยใช้เครื่องมือเลือกและวาดด้วยตนเอง รวมถึงเครื่องมือกึ่งอัตโนมัติ
การวิเคราะห์ การวิเคราะห์คุณภาพข้อมูลตามมาตรฐาน ASTM E 1695 เพื่อติดตามคุณภาพการสแกน CT เมื่อเวลาผ่านไป การวิเคราะห์คุณภาพข้อมูลตามมาตรฐาน ASTM E 1695 เพื่อติดตามคุณภาพการสแกน CT เมื่อเวลาผ่านไป; การรู้จำข้อความเพื่ออ่านตัวระบุวัตถุ เช่น เครื่องหมายช่อง (cavity markers) จากการสแกน CT; การวิเคราะห์ค่าสีเทา (Gray value analysis)
ระบบอัตโนมัติ ไม่มี ทำให้การวิเคราะห์ชุดข้อมูลเดียวหรือกลุ่มของชุดข้อมูลเป็นไปโดยอัตโนมัติด้วยมาโคร
การลงทะเบียน (การจัดตำแหน่ง) การลงทะเบียนอย่างง่าย;
การลงทะเบียนแบบ 3-2-1 อย่างง่าย
การลงทะเบียนอย่างง่าย; การลงทะเบียนแบบ 3-2-1 อย่างง่าย; การลงทะเบียนแบบ Best fit;
การลงทะเบียนแบบ 3-2-1; การลงทะเบียนตามลักษณะเฉพาะ (Feature-based registration); การลงทะเบียนตามลำดับ ฯลฯ
เครื่องมือวัด เครื่องมือวัดระยะทาง, ความยาวโพลีไลน์ และมุม เครื่องมือวัดระยะทาง, ความยาวโพลีไลน์ และมุม พร้อมความสามารถในการนำเข้าเทมเพลตเครื่องมือ; ฟังก์ชัน GD&T เต็มรูปแบบ (พร้อมโมดูล Coordinate Measurement)
โมดูลเสริม เฉพาะการสร้างข้อมูล CT ใหม่ โมดูลเสริม VG ที่มีอยู่ทั้งหมด
การนำเข้าข้อมูล
รูปภาพ นำเข้าข้อมูลจากระบบ CT อุตสาหกรรมหลักส่วนใหญ่; นำเข้ารูปแบบภาพมาตรฐาน (เช่น .bmp, .jpg, .jp2, .raw, .tif) รวมถึงข้อมูล DICOM และ DICONDE
โมเดล CAD ไม่มี .stp, .step, .igs, .iges, .catpart, .catproduct, .prt, .asm, .jt, .model, .dlv, .exp, .par, .sldprt, .sldasm
พื้นผิวเมช *.stl, *.STL, *.obj, *.ply
พอยต์คลาวด์ ไม่มี .txt, .csv, .asc, .xyz, .lsproj, .fls, .fws
เมชสำหรับการคำนวณ ไม่มี .pat, .bdf, .emv
การส่งออกข้อมูล
ไฟล์ชุดรูปภาพ นำเข้ารูปแบบภาพมาตรฐาน (เช่น .bmp, .jpg, .jp2, .raw, .tif, .gz, .dcm)
รูปแบบไฟล์ปริมาตร .hdr, .raw, .gz, .hdf รวมถึงไฟล์ปริมาตรหลายไฟล์ เช่น .raw, .wmv, .avi, .bmp, ฯลฯ
โมเดล CAD ไม่มี .stp (พร้อมโมดูลเสริม)
พื้นผิวเมช *.txt, *.off,*.stl, *.wrl, *.wrz, *.obj, *.ply
เมชสี่หน้า ไม่มี .pat, .inp (พร้อมโมดูลเสริม)
อื่นๆ ไม่มี รูปแบบไฟล์แลกเปลี่ยน MAGMA/Volume Graphics, รูปแบบไฟล์แลกเปลี่ยน Digimat/Volume Graphics, ไฟล์ Q-DAS
รูปภาพและวิดีโอ รูปแบบรูปภาพและวิดีโอมาตรฐาน (เช่น .jpg, .jpeg, .avi, .wmv, .tiff, ฯลฯ)

 

VGTRAINER

VGTRAINER เป็นซอฟต์แวร์สำหรับการฝึกโมเดลที่ใช้ AI (Deep Learning) โดยเฉพาะในการทำ Segmentation ของข้อมูล CT ทางอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น โมดูลเสริม “Deep Segmentation” ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ เป็นผลลัพธ์จากการผสาน VGTRAINER เข้ากับ VGSTUDIO MAX (หรือ VGinLINE)

ความสามารถและคุณสมบัติ (Functionality and Features)

  • การสร้างโมเดล AI แบบไม่ต้องเขียนโค้ด: สามารถสร้างโมเดล AI ได้โดยใช้ข้อมูลการฝึกสอนที่มีการระบุป้ายกำกับ แม้ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรมหรือ AI ผู้ใช้เพียงแค่อัปโหลดข้อมูล CT ที่ฝึกแล้ว และ AI จะสร้างโมเดลการแบ่งส่วนโดยอัตโนมัติ
  • รองรับการใช้งานภายในองค์กรและปลอดภัย: รับประกันความปลอดภัยของข้อมูลด้วยระบบที่ทำงานภายในองค์กร (On-premise) โดยสมบูรณ์ ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์
  • การแบ่งส่วนที่รวดเร็วและเสถียรสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการปริมาณงานสูง: บรรลุการแบ่งส่วนที่รวดเร็วและทำซ้ำได้สูง แม้สำหรับชุดข้อมูล CT หลายร้อยชุด
  • การผสานการทำงานอย่างราบรื่นกับซอฟต์แวร์ VG: โมเดลที่ฝึกแล้วสามารถนำไปใช้โดยตรงกับโมดูล Deep Segmentation ใน VGSTUDIO MAX หรือ VGinLINE ทำให้ง่ายต่อการนำไปปรับใช้กับสายการผลิตและสภาพแวดล้อม R&D
  • การฝึกใหม่ (การปรับจูน): โมเดล Deep Learning ที่มีอยู่สามารถปรับจูนเพิ่มเติมสำหรับงานตรวจสอบใหม่ที่คล้ายกันได้โดยใช้ชุดข้อมูล CT จำนวนน้อย (เช่น 2-3 ชุด) ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในการปรับจูนสำหรับสายการผลิตหรืออุปกรณ์หลายรายการ

 

Free Viewer myVGL 2025.2

ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ myVGL 2025.2 ได้ฟรี เพื่อเปิดดูข้อมูลโครงการ 3 มิติที่สร้างขึ้นจาก VGSTUDIO หรือ VGSTUDIO MAX ไม่เพียงแต่สามารถหมุนหรือขยับโมเดลจาก CT Scan เพื่อประเมินในทุกมุมมองหรือทุกหน้าตัดได้เท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือวัดพื้นฐานบางอย่างให้ใช้งานในซอฟต์แวร์นี้ด้วย
โปรดดูบทความอื่นของเราเพิ่มเติมเพื่อศึกษาการใช้งาน >>>>Learning myVGL Basics within 10 minutes


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ VGSTUDIO MAX

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ VGSTUDIO MAX MAX กรุณาดาวน์โหลดแคตตาล็อกของ VGSTUDIO MAX เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

หากมีคำขอสาธิตหรือใบเสนอราคา โปรดติดต่อให้เราทราบ

Catalog Download
Request a Consultation